PRI โชว์ผลประกอบการ Q2/67 กวาดรายได้กว่า 371 ล้านบาท กำไร 72 ล้านบาทใส่เกียร์ลุยงานภาครัฐ การบริหารทรัพยากรกายภาพ และการบริการด้านการอยู่อาศัย เดินหน้าตามแผนเติบโตทุกมิติมุ่งมั่นสร้างรายได้ตามแผน
พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เผยผลประกอบการไตรมาส 2/2567 กวาดรายได้กว่า 371 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 72 ล้านบาท เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด “Elevate Your Living Experience” พร้อมขยายงานภาครัฐ การบริหารทรัพยากรกายภาพ (Facility management) และการบริการด้านการอยู่อาศัย สู่ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯสมัยใหม่แบบครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน หลังสร้างรากฐานธุรกิจบริการอสังหาฯต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรประกาศพร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Elevate Your Living Experience” สู่ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯสมัยใหม่แบบครบวงจร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เม.ย.- มิ.ย.) ที่ผ่านมา PRI มีรายได้อยู่ที่ 371 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 72 ล้านบาท ทั้งนี้ PRI ยังคงมุ่งมั่นกับการเติบโตแบบมั่นคงและยั่งยืน และใส่ใจทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับงานบริการอย่างเต็มกำลัง โดยในไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯให้ความสำคัญกับการสร้างมาตรฐานระดับสากล ทั้งในเรื่องของของมาตรฐานองค์กร การพัฒนาบุคคลากร เพื่อขยายฐานลูกค้ามากขึ้น สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ที่ผ่านมา PRI และบริษัทในเครือได้ร่วมกันเดินหน้าสร้างมาตรฐาน ผ่านธุรกิจต่างๆเพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งซึ่งประกอบไปด้วย
UPM: ได้รับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานก่อสร้าง 3 ระบบมาตรฐาน ได้แก่ 1. ISO-9001:2015 มาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล 2. ISO-14001:2015 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร และ 3. ISO-45001:2018 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
UNO SERVICE: ได้รับรองมาตรฐาน 3 ระบบ ได้แก่ ISO 9001:2015 มาตรฐานระบบบริหารงานคุณภาพระดับสากล ISO 14001:2015 เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากร และมุ่งมั่นเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ISO 45001:2018 เพื่อให้บุคลากรของบริษัทฯ มีพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย
ขณะเดียวกัน UPM ได้เดินหน้าพัฒนาบุคลากรด้วยหลักสูตร FIDIC ที่ปรึกษาด้านงานก่อสร้างของภาครัฐ ซึ่งปัจจุบัน UPM รับโปรเจ็กต์ภาครัฐเข้าพอร์ตแล้ว 6 โปรเจ็กต์ ส่วน UNO Service ได้มีการฝึกอบรมพนักงานจากผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อรองรับโปรเจ็กต์ภาครัฐ-เอกชน ที่เพิ่มเข้ามา ทั้งในส่วนของอาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และโรงแรม เป็นต้น ขณะที่ Living Services เอง ก็ยังคงไม่หยุดยั้งในการพัฒนาบุคคลากรด้วยมาตรฐานการอบรมที่มีมาตรฐานทั้งภายในและภายนอกองค์กร พร้อมเดินหน้าโครงการ Happy Maker ด้วยการบริการจากใจสู่ผู้อยู่อาศัยทุกคน
นายสุรินทร์ ยังกล่าวถึงภาพรวมในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 PRI จะยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนภายใต้แนวคิด Elevate Your Living Experience เพื่อสร้างมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายขอบข่ายการบริการในเซ็กเมนต์ใหม่ หรือธุรกิจใหม่เข้ามาเติมเต็มธุรกิจของ PRI ทั้งในส่วนงานบริการด้านการอยู่อาศัย, งานการบริหารทรัพยากรกายภาพ (Facility management) รวมถึง งานตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นต้น ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าพัฒนาทั้งคนและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้ง B2G, B2B, B2C และขยายฐานไปสู่ลูกค้าใหม่ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เดินหน้ามองหาโอกาสการขยายธุรกิจทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth เช่น การร่วมทุน การเข้าซื้อกิจการ ในกลุ่มธุรกิจที่ส่งเสริมกับธุรกิจเดิมในเครือ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง PRI ยังวางเป้าหมายในการดำเนินการพัฒนาและขยายธุรกิจการให้บริการในส่วนของการพักอาศัยให้ครบวาจรและเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการยกระดับเทคโนโลยีและพัฒนาซอฟต์แวร์ที่รองรับการอยู่อาศัยให้ครอบคลุมสนองตอบการใช้ชีวิตในทุกมิติ
“เพื่อยกระดับและบริการตามมาตรฐานสากล ล่าสุด PRI ได้รับมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 ว่าด้วยเรื่องมาตรฐานการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเรามุ่งมั่นในการดำเนินการเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการกิจกรรมในการดำเนินธุรกิจ จึงได้ประเมินและจัดทำรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร และได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO 14064-1:2018 นอกจากนี้ PRI ยังคงส่งบริษัทในเครือ เดินหน้าประมูลงานใหม่ๆ ทั้งภาคเอกชน-ภาครัฐ รวมถึงกลุ่มงานบริการที่ปรึกษา ควบคุมงานก่อสร้าง กลุ่มงานบริหารจัดการอาคาร เข้าสู่พอร์ตเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ 2,250 ล้านบาทในปีนี้” นายสุรินทร์ ยังกล่าวย้ำ
สำหรับ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 11 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) ได้แก่ บริการให้คำปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างโครงการอสังหาฯ บริการออกแบบสถาปัตยกรรมงานวิศวกรรมโครงสร้างควบคุมการก่อสร้าง และบริการควบคุมการก่อสร้าง งานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค
2.กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) ได้แก่ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการนิติบุคคลอาคารชุดแบบลักชัวรี่ การบริหารจัดการ Residential Property และ Service Apartment บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตัวแทนในการซื้อ-ขาย-เช่าบริการจัดหาผู้ร่วมลงทุน บริการที่ปรึกษาด้านสื่อการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจอสังหาฯ บริการ Personal Assistant ให้แก่ชาวต่างชาติ และบริการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริการ และเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัย
3.กลุ่มปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) ได้แก่ บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการงานจ้าเหมาแบบเบ็ดเสร็จ บริการแม่บ้านทำความสะอาดและบริการงานช่างช่าง บริการจัดการอาคาร และจัดจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัย แบบ Lifestyle